ผู้เรียนเลือกบทเรียนด้วยวิธีการทางประชาธิปไตย ใช้เกณฑ์เสียงข้างมากในการตัดสินเลือก
ใช้คำเชื่อมความ. ใช้คำเชื่อมความเชื่อมโยงความคิดแต่ละความคิดเข้าด้วยกัน บทความของเราจะมีความเกี่ยวเนื่องกัน เริ่มย่อหน้าใหม่ด้วยคำเชื่อมความที่ช่วยเชื่อมย่อหน้านั้นกับย่อหน้าก่อน
เขียนบทนำ. ย่อหน้าบทนำที่น่าสนใจจะดึงดูดผู้อ่านให้อยากอ่าน ผู้อ่านจะประเมินภายในสองสามประโยคแรกว่าบทความของเราคุ้มค่าที่จะอ่านให้จบหรือไม่ ฉะนั้นจึงขอแนะนำวิธีการเขียนบทนำสักสองสามวิธีดังนี้ บอกเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ
ขบั เคล่ือนด้วยแรงถีบจากคนขใ่ี หล้ ้อหมุนไป
๒. ข้อใดเขียนคาจากคาอา่ นถูกต้อง สขุ ภาพ
ให้ย่อหน้าแรกเป็นบทนำ ย่อหน้าอีกสามย่อหน้าเป็นเนื้อหาซึ่งสนับสนุนประเด็นที่หยิบยกมากล่าว และย่อหน้าสุดท้ายเป็นบทสรุป ตอนที่เริ่มใส่ข้อมูลลงในเค้าโครง เราอาจเห็นว่าโครงสร้างนี้ไม่เหมาะกับบทความของเราก็ได้
ตวั สะกดไมต่ รงมาตรา คือ รปู ของตวั สะกดทตี่ รงกับมาตรา แต่เมอ่ื ทา
๗. “พไ่ี ปฉดี ว_ั ซีนท่อี นามยั ” ตวั สะกดที่ขีดเสน้ ใตค้ วรเตมิ ตัวสะกดใด
๓. คาในขอ้ ใดที่สะกดไมต่ รงมาตราแม่ กก ถกู ทกุ คา
เมื่อเขียนบทความ เริ่มประโยคที่ทำให้ผู้อ่านติดตามอ่านอย่าง “ต่อเนื่อง” ทุกย่อหน้า ประโยคควรมีความสั้นยาวที่หลากหลาย ถ้าทุกประโยคมีความยาวเท่ากันหมด จะทำให้ผู้อ่านเริ่ม “จับ” อ่านเพิ่มเติม จังหวะการเขียนของเราได้และเผลอหลับ แต่ถ้าประโยคไม่ต่อเนื่องกันเลยและสั้น ผู้อ่านก็อาจจะคิดว่าเรากำลังเขียนโฆษณามากกว่าเขียนบทความที่ได้รับการเรียบเรียงความคิดมาอย่างดี
- นักเรียนแสดงความคิดเห็นเป็นรายบุคคลหน้าชั้นเรียนเกี่ยวกับ เรื่องที่อ่านว่า “ถ้าหากเหตุการณ์
- ครูแนะนาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เรียนโดยการพูดนาเสนอเนื้อเรื่องย่อเพียงบางส่วนของ
แบบทดสอบหลังเรียน.............................................................. ๓๖
เมื่อเขียนบทความ อย่าใส่ข้อมูลเพียงแค่ต้องการทำให้บทความยาวขึ้น ถ้าบทความยาวมากเกินไปจะทำให้ผู้อ่านเบื่อและเลิกสนใจได้ ฉะนั้นพยายามเสนอความคิดที่เรียบง่ายแต่แปลกแหวกแนวเพื่อให้กลุ่มผู้อ่านเป้าหมายสนใจ